15 เรื่องราวเกี่ยวกับอาการปวดหลัง ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

15-เรื่องราวเกี่ยวกับอาการปวดหลัง-ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน---feat

1.ปวดหลังเป็นเรื่องปกติ

ปวดหลังเป็นเรื่องปกติ

80% ของคนเราจะต้องเจอกับการปวดหลังสักอย่างในชีวิต มันก็เหมือนความรู้สึกเหนื่อยหรือเศร้าที่ไม่มีใครชอบแต่ก็เกิดขึ้นได้บางครั้ง ที่ไม่เหมือนกันของแต่ละคนคือรักษาได้หรือรักษาไม่ได้

การปวดหลังแบบรุนแรงคือผลมาจากความเครียดหรืออาการเคล็ด กว่า 85% รายงานว่าทุกอย่างจะหายเป็นปกติภายใน 3 เดือน มีแค่ไม่กี่คนที่พัฒนาปวดหลังเป็นโรคในระยะยาวจนถึงมีปัญหาเรื่องสมรรถภาพ

2.การสแกนแทบไม่สำคัญ

การสแกนแทบไม่สำคัญ ปวดหลัง

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพส่วนใหญ่คิดว่าแสกนไว้เผื่อว่ามีอะไรผิดปกติในความปวดหลังนั้น แต่หลักฐานพิสูจน์แล้วว่าการสแกนแสดงสิ่งสำคัญแค่ 5% ในคนที่ปวดหลังเท่านั้น

การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่วยบอกได้ว่าการสแกนของแต่ละคนนั้นจำเป็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอาการและประวัติยา

3.ผลของสแกนมาพร้อมกับคำเตือนสุขภาพ

ผลของการสแกนมาพร้อมกับคำเตือนสุขภาพ ปวดหลัง

เราเคยคิดว่าถ้าผลสแกนออกมาแล้วกระดูกดูไม่มีปัญหาอะไรจะช่วยให้หายปวดหลังได้มากขึ้น แต่มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น เพราะหลายครั้งที่เครื่องสแกนแสดงบางอย่างที่ไม่เกี่ยวกับการปวดเลย

น่าเศร้าที่คนปวดหลังหลายคนเชื่อในสิ่งที่ผิดๆ ทำให้เกิดความเครียด ความกลัว และไม่กล้าทำกิจกรรมต่างๆ

4.ปวดหลังไม่ได้เกิดจากกระดูกเคลื่อน

ปวดหลังไม่ได้เกิดจากกระดูกเคลื่อน

ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการปวดหลังเกิดจากการที่กระดูกหรือข้อต่อที่หลังอยู่ผิดที่ หรือกระดูกเชิงกรานเรียงไม่เป็นแถว

แม้ว่าหลายคนรู้สึกดีขึ้นระหว่างการผ่าตัดเคลื่อนย้ายกระดูก แต่ก็ช่วยลดความเจ็บและกล้ามเนื้อตึงได้แค่ชั่วคราวและเฉพาะส่วนเท่านั้น

5.การนอนไม่ช่วยให้หายปวด

การนอนไม่ช่วยให้หายปวดหลัง

ในช่วงไม่กี่วันหลังจากเริ่มปวด หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ปวดหลังมากขึ้น หรือแม้กระทั่งส่วนอื่นๆของร่างกาย เช่น ข้อเท้าเคล็ด มีหลักฐานว่าการเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรมทุกอย่างแบบปกติ เช่น ทำงานหรือกิจกรรมยามว่างช่วยให้หายดีขึ้นได้

ในทางกลับกัน นอกจากการนอนอยู่บนเตียงจะไม่ได้ช่วยแล้ว ยังเพิ่มความเจ็บและเสี่ยงทำให้พิการเลยก็ได้ ยิ่งนอนบนเตียงนานเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความปวดมากเท่านั้น

6.ปวดหลังมากไม่ได้แปลว่าเจ็บมาก

ปวดหลังมากไม่ได้แปลว่าเจ็บมาก

คงฟังดูแปลกแต่จริงที่ว่าปวดหลังมากอาจจะไม่ได้แปลว่าเจ็บมาก ผู้ป่วย 2 คนที่ปวดหลังเหมือนกันแต่ไม่เท่ากันรู้สึกได้ว่าระดับความปวดขึ้นอยู่กับหลายอย่างมาก เช่น ปวดจากอะไร เคยปวดก่อนหน้านี้มั้ย อารมณ์ ความกลัว และความเครียด อย่างนักกีฬาหรือทหารอาจจะไม่ปวดมากเพราะความเคยชินและสภาพแวดล้อม

เส้นประสาทมีความสามารถเป็นตัวควบคุมความเจ็บได้ ถ้าปวดหลังแล้วเส้นประสาทรับความรู้สึกไวเกินไปยิ่งทำให้รู้สึกปวดมากแม้ว่าจะหายดีแล้ว

นั่นหมายถึงคนเราจะรู้สึกเจ็บตอนขยับหรือพยายามจะทำอะไรก็ได้ทั้งๆที่กระดูกสันหลังไม่ได้เป็นอะไรเลย และถ้าแยกความเจ็บจริงๆจากความรู้สึกได้ ก็เป็นเรื่องไม่ยากที่จะหายเป็นปกติ

7.การผ่าตัดแทบไม่จำเป็น

การผ่าตัดแทบไม่จำเป็น ปวดหลัง

ปวดหลังไม่จำเป็นต้องผ่าตัด มีแค่ไม่กี่คนที่ปวดหลังแล้วจำเป็นจะต้องผ่า หลายคนสามารถจัดการได้โดยแค่ไม่อยู่เฉย เข้าใจความเจ็บปวดมากขึ้น และรู้ว่าอะไรที่ทำให้เจ็บ

นี่จะช่วยให้ทำทุกอย่างเป็นปกติโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเลย

เพราะโดยเฉลี่ยแล้วผลการผ่าตัดกระดูกสันหลังไม่ได้ดีไปกว่าการออกกำลังกาย

 8.กระเป๋านักเรียนไม่ใช่ตัวปัญหา

กระเป๋านักเรียนไม่ใช่ตัวปัญหา ปวดหลัง

หลายคนคิดว่าเด็กที่ถือกระเป๋าหนักๆไปโรงเรียนอาจทำให้ปวดหลัง แต่การวิจัยพบแล้วว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย แต่ถ้าเด็กหรือผู้ปกครองเชื่อว่ากระเป๋าหนักเกินไป เด็กจะมีโอกาสปวดหลังในอนาคตมากขึ้นเพราะไปให้ความสำคัญกับความกลัวจนเกินไป

ถ้าพูดในเรื่องของโรคอ้วน เด็กที่ถือกระเป๋าหนักถือว่าเป็นการออกกำลังกาย

 9.ท่านั่งที่ดีที่สุดไม่มีจริง

ท่านั่งที่ดีที่สุดไม่มีจริง ปวดหลัง

สวนกระแสความเชื่อสุดฮิตคือไม่มีท่านั่งที่ดีที่สุดที่จะลดหรือป้องกันการปวดหลัง ท่านั่งที่แตกต่างเหมาะสำหรับคนแตกต่างกันไป ยังไม่มีหลักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ว่าคนปวดหลังควรนั่งท่าไหน เช่น ท่าหลังตรงมากๆ

เปลี่ยนท่านั่งบ่อยๆแทนที่จะนั่งอยู่ท่าเดียวอาจเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับคนปวดหลัง

 10.การยกของและก้มตัวไม่อันตราย

การยกของและก้มตัวไม่อันตราย ปวดหลัง

ส่วนใหญ่คนที่ปวดหลังจะเชื่อว่าการยกของ ก้มตัว หรือบิดตัวเป็นอันตรายและควรหลีกเลี่ยง แต่จากการศึกษาพบว่ามันไม่จริง ถ้าคนปวดหลังยกของอาจทำให้รู้สึกเจ็บกว่าปกติได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นอันตรายหรือควรหลีกเลี่ยง

ในขณะที่ยกของหรือก้มตัวทำให้ปวดหลัง ยังช่วยทำให้หลังตรงขึ้นด้วย

 11.หลีกเลี่ยงกิจกรรมและขยับ ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นในระยะยาว

หลีกเลี่ยงกิจกรรมและขยับ ปวดหลัง

เป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะตอนปวดหลังช่วงแรกที่แค่ขยับนิดเดียวก็สะท้านไปถึงทรวง แต่นั่นทำให้ความเจ็บปวดทุเลาลงได้ หลังจากปวดมาหลายรูปแบบแล้ว หลายคนเริ่มขยับตัวหรือเดินแปลกไปเพราะความกลัวหรือเจ็บหรือความคิดที่ว่าการทำกิจกรรมนั้นอันตราย แต่การเดินแบบผิดปกติอาจเป็นผลต่อระยะยาวและเพิ่มความปวดที่หลัง

 12.นอนไม่พอทำให้ปวดหลัง

นอนไม่พอทำให้ปวดหลัง

เป็นปกติที่เวลาปวดหลังจะหลับยาก และการนอนไม่หลับนั่นแหละที่จะเป็นผลให้ปวดหลังเข้าไปอีกในไม่ช้า แถมยังเพิ่มความเครียดและปวดหัวอีก ดังนั้นการพักผ่อนให้เพียงพอช่วยลดความปวดได้อย่างมาก

 13.ความเครียด อารมณ์เสีย และความกังวลมีผลต่อการปวดหลัง

ความเครียด อารมณ์เสีย และความกังวลมีผลต่อการปวดหลัง

ความรู้สึกของเรามีผลต่อการปริมาณความเจ็บปวด และการปวดหลังส่งผลให้ระดับความเครียดและอารมณ์เปลี่ยน

เหมือนกับอาการป่วยทั่วไป เช่น เจ็บคอ ลำไส้แปรปรวน และความเมื่อยล้า ที่มีผลอย่างมากต่อการปวดหลัง ดังนั้นควบคุมระดับความเครียด อารมณ์ และความวิตกกังวล แล้วผ่อนคลายจะทำให้เป็นผลดีต่อการปวดหลัง

 14.ออกกำลังกาย ทั้งดีทั้งปลอดภัย

ออกกำลังกาย ทั้งดีและปลอดภัย ปวดหลัง

หลายคนที่ปวดหลังและกลัวที่จะออกกำลังกาย เพราะกลัวว่าการออกกำลังกายจะทำให้เกิดปัญหา แต่มันไม่จริงเลย ออกกำลังกายเป็นประจำทำให้ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี ช่วยลดอาการเจ็บหรือความไม่สบายตัว ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและระบบภูมิคุ้มกันกลับมาทำงานอย่างปกติอีกครั้ง

การออกกำลังกายทุกประเภทมีประโยชน์และผลคล้ายๆกัน เลือกที่ชอบและสะดวกสบายที่จะทำ เช่น เดิน ใช้บันได ขี่จักรยาน วิ่ง หรือยืดกล้ามเนื้อเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึงจนเกินไป

การเริ่มต้นออกกำลังกายขณะเจ็บอาจจะยาก ฉะนั้นเลือกออกกำลังกายที่คิดว่าทำได้โดยไม่ต้องพยายาม อาจจะปวดบ้างหลังจากออกกำลังกาย แต่นั่นไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

 15.ปวดหลังบ่อยๆก็หายได้

ปวดหลังบ่อยๆก็หายได้

อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้กับทุกคนและมาจากหลายสาเหตุ เช่นเดียวกับการรักษาที่ได้ผลกับแค่บางคน ทำให้หลายคนที่ลองวิธีรักษาหลายวิธีแล้วไม่ได้ผลหมดหวังและท้อแท้ ความปวดสามารถลดลงไปได้ถ้าเราอยู่อย่างมีความสุขและสุขภาพดี

Facebook Comments

ทิ้งข้อความไว้